ระบบค้นหาประกันชีวิต FRIENDNACIAL
"เราเข้าใจปัญหาของคุณว่าเวลาคุณค้นหา ประกันชีวิต คุณมักจะตั้งคำถาม ประกันชีวิต แบบไหน ดีที่สุด หรือ ที่ไหนดี ระบบค้นหา ประกันชีวิต ของเราจึงมาช่วยคุณในเรื่องนี้เพื่อค้นหา ประกันชีวิต ดีที่สุด สำหรับคุณ"
ประกันชีวิตคืออะไร ?
การประกันชีวิต คือ การชดเชยรายได้ที่ต้องสูญเสียไปอันเนื่องมาจาก การตาย ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงหรือชราภาพ โดยบริษัทประกันชีวิต จะจ่ายเงินตามจํานวนที่ระบุไว้ให้แก่ผู้เอาประกัน หรือผู้รับประโยชน์ ตามที่กําหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันชีวิต
ประกันชีวิต เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินชนิดเดียว ที่ให้ความคุ้มครองชีวิตสร้างวินัยในการออมเป็นทรัพย์สินให้ครอบครัวทันทีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ประกันชีวิต ใช้ในการจัดการความเสี่ยง ความจริงของทุกชีวิตไม่ควรหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ทั้งสี่นี้: การเกิดการบาดเจ็บการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุชีวิตยืนยาวชีวิตสั้น
การ ประกันชีวิต หรือกรมธรรม์ประกันชีวิตในบริบทของกฎหมายหมายถึงสัญญาต่างตอบแทนซึ่งคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งเรียกว่า "ผู้เอาประกันภัย" มีหน้าที่ต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยให้กับอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเรียกว่า "บริษัท ประกันชีวิต" และเมื่อ ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต หรือเต็มตามสัญญากรมธรรม์ "บริษัท ประกันชีวิต" มีหน้าที่จ่ายค่าชดเชยที่เรียกว่า "ทุนประกันชีวิต" ให้แก่ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับผลประโยชน์ภายใต้นโยบาย
พูดง่ายๆก็คือ ประกันชีวิต หมายถึงการเสียชีวิตการสูญเสียอวัยวะทุพพลภาพและการสูญเสียรายได้ในวัยชรา ที่จะเกิดขึ้นจากคนเดียวไปสู่หลาย ๆ คนโดยผู้รับประกันภัยต้องรับผิดชอบในการกระจายความเสี่ยงให้กับผู้เอาประกันทั้งหมด โดยให้ผู้เอาประกันภัยจ่ายเงินจำนวนหนึ่งในรูปแบบ“ ค่าเบี้ยประกันภัย” ให้แก่ผู้รับประกันภัยเป็นเงินส่วนกลางเมื่อผู้เอาประกันภัยได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ที่ผู้เอาประกันภัยจะนำเงินกองกลางไปชดใช้ตามจำนวนที่ตกลงไว้
ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยคุณต้องรู้ว่า ประกันชีวิต แบบไหน ที่ไหนดี และ ดีที่สุด สำหรับตัวคุณเอง
ประกันชีวิตแยกออกได้เป็น 3 ประเภทคือ
1. ประเภทสามัญ เป็นที่มีจำนวนเงินเอาประกันภัยค่อนข้างสูง ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้ปานกลางขึ้นไป ในการพิจารณารับอาจจะมีการตรวจสุขภาพหรือไม่ตรวจสุขภาพ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัท และมีการชำระเบี้ยประกันภัยเป็นรายปี, ราย 6 เดือน, ราย 3 เดือน หรือรายเดือน
2. ประเภทอุตสาหกรรม เป็นที่มีจำนวนเงินเอาประกันภัยต่ำ โดยทั่วไปตั้งแต่ 10,000 - 30,000 บาท เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้ปานกลางถึงรายได้ต่ำ การชำระเบี้ยประกันภัยจะชำระเป็นรายเดือน และไม่มีการตรวจสุขภาพ ฉะนั้นจึงมีระยะเวลารอคอย คือ ถ้าผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บตามธรรมชาติ บริษัทจะไม่จ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยให้ แต่จะคืนเบี้ยประกันภัยที่ผู้เอาประกันภัยได้ชำระมาแล้วทั้งหมด
3. ประเภทกลุ่ม เป็นที่กรมธรรม์หนึ่งจะมีผู้เอาร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ส่วนมากจะเป็นกลุ่มของพนักงานบริษัท ในการพิจารณารับประกันอาจจะมีการตรวจสุขภาพหรือไม่ตรวจก็ได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัท กลุ่มนี้อัตราเบี้ยจะต่ำกว่าประเภทสามัญและประเภท อุตสาหกรรมการประกันชีวิตมีมากมายหลายแบบ แต่ละแบบจะมีลักษณะความคุ้มครองและผลประโยชน์แตกต่างกันออกไป
ประโยชน์ของการทำประกันชีวิต
1.ด้านการออม
ลักษณะการออมของการทำประกันภัยนั้นจะเป็นในลักษณะแบบกึ่งบังคับ โดยผู้เอาประกันภัยจะต้องมีหน้าที่ในการจ่ายเบี้ยประกัน
อย่างสม่ำเสมอ และหากผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่จนครบตามที่กรมธรรม์กำหนดไว้ ก็จะได้เงินคืนตามเงื่อนไขของสัญญา ซึ่งสามารถ
ใช้เป็นเครื่องมือออมเงินเพื่อไว้ใช้ยามชรา หรือออมไว้เพื่อเก็บเป็นทุนการศึกษาของบุตรหลาน ทั้งนี้การออมวิธีนี้ไม่สามารถถอนเงิน
ในลักษณะของการฝากเงินได้ แต่สามารถเวนคืนกรมธรรม์ ซึ่งมูลค่าเวนคืนตามกรมธรรม์ที่ได้จะถูกหักค่าธรรมเนียมในการเวนคืน
จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้เพราะการทำประกันชีวิตมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการลงทุนระยะยาว
2.ด้านการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตของผู้เอาประกันภัย
การประกันชีวิตสามารถช่วยสร้างความมั่นคงของรายได้ให้แก่ผู้เอาประกันภัยได้ ในกรณีการทำประกันคุ้มครองการเจ็บป่วย หรือการประกันอุบัติเหตุ ผู้เอาประกันภัยจะได้เงินทดแทนเพื่อใช้ในการเลี้ยงชีพในกรณีทุพพลภาพโดยสิ้นเชิงได้
3.ด้านการให้ความคุ้มครองและบรรเทาความเดือนร้อนให้กับผู้ที่อยู่ในอุปการะคุณ
การทำประกันชีวิตจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเรื่องการเงิน รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นของครอบครัว อันเนื่องมาจากการเสียชีวิตของบุคคลใดบุคคลหนึ่งในครอบครัว
4.ด้านการได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี
เนื่องจากรัฐบาลได้ให้การส่งเสริมธุรกิจประกันชีวิต ดังนั้น ผู้ที่ทำประกันชีวิตก็สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตไปใช้เป็นค่า ลดหย่อนใน
การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับแบบทั่วไป และ 200,000 บาทสำหรับ
แบบบำนาญ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาสนใจการทำประกันชีวิตเพิ่มขึ้นเพื่อความมั่นคงในชีวิต
5.ด้านอื่นๆ
การทำประกันชีวิตเปรียบเสมือนการเตรียมเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เมื่อกรมธรรม์ครบกำหนดระยะเวลาหนึ่ง ก็จะมีมูลค่าเงินสด
หากผู้เอาประกันภัยมีความจำเป็นทางการเงินก็สามารถขอกู้เงินจำนวนหนึ่งตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนดไปใช้ในอัตราดอกเบี้ย
ต่ำได้